เทรดทองคำและโลหะมีค่า

เทรดฟอเร็กซ์ โลหะมีค่า พลังงาน และดัชนีหุ้น ได้จากบัญชีเดียว
เข้าไปยังตลาดโลกได้ทันทีด้วยแพลทฟอร์มซื้อขาย XM MT4 หรือ MT5

โลหะมีค่า – สเปรด / เงื่อนไข

ราคาทองคำและเงิน

สัญญลักษณ์ สเปรดต่ำสุด (pip) ค่า Long Swap
(จุด)**
ค่า Short Swap
(จุด)**
มูลค่าของ 1 lot ระดับ Limit และ Stop* แพลตฟอร์ม
SILVER 4.3 -5.71 1.65 5,000 oz 0 MT4/MT5
GOLD 3.7 -44.88 19.67 100 oz 0 MT4/MT5
สัญญลักษณ์ สเปรดต่ำสุด (pip) ค่า Long Swap
(จุด)**
ค่า Short Swap
(จุด)**
มูลค่าของ 1 lot ระดับ Limit และ Stop* แพลตฟอร์ม
SILVERmicro 4.3 -5.71 1.65 50 oz 0 MT4/MT5
GOLDmicro 3.7 -44.88 19.67 1 oz 0 MT4/MT5
สัญญลักษณ์ สเปรดต่ำสุด (pip) ค่า Long Swap
(จุด)**
ค่า Short Swap
(จุด)**
มูลค่าของ 1 lot ระดับ Limit และ Stop* แพลตฟอร์ม
GOLD# 1.9 0 0 100 oz 0 MT4/MT5
SILVER# 2 0 0 5,000 oz 0 MT4/MT5
สัญญลักษณ์ สเปรดต่ำสุด (pip) ค่า Long Swap
(จุด)**
ค่า Short Swap
(จุด)**
มูลค่าของ 1 lot ระดับ Limit และ Stop* แพลตฟอร์ม
GOLDm# 1.9 0 0 1 oz 0 MT4/MT5
SILVERm# 2 0 0 50 oz 0 MT4/MT5

ระดับมาร์จิ้นที่ต้องใช้สำหรับ Gold และ Silver มีการคำนวณดังนี้: Lots * ขนาดของสัญญา * ราคาตลาด / เลเวอเรจ

สำหรับบัญชีทุกประเภท เลเวอเรจสำหรับโลหะเงินจะจำกัดอยู่ที่ 400:1

* ระดับขั้นต่ำสำหรับการส่งคำสั่งที่ค้างอยู่ตามราคาตลาดปัจจุบัน

** ถ้าหากท่านปล่อยให้มีโพซิชั่นเปิดข้ามวัน ท่านจะต้องจ่ายหรือได้รับเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะถูกคำนวณตามความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยของคู่สกุลเงิน การดำเนินการนี้เรียกว่า swap ในเทอมินอลการเทรด ค่า swap จะถูกแปลงให้เป็นสกุลเงินฝากโดยอัตโนมัติ การดำเนินการนี้จะเกิดขึ้นที่เวลา 00.00 (โซนเวลา GMT+2 อาจมีการใช้เวลาออมแสง) และจะมีการใช้เวลาไม่กี่นาที จะมีการคิดค่า swap นี้เป็นเวลาสามวัน ตั้งแต่วันพุธถึงวันพฤหัสบดี

ช่วงเวลาการเทรด GOLD & SILVER
(โซนเวลา GMT+2 อาจมีการใช้เวลาออมแสง)

จันทร์ – พฤหัสบดี: 01:05 – 23:55
ศุกร์: 01:05 – 23:50

ราคาแพลตตินัมและแพลเลเดียม

สัญญลักษณ์ รายละเอียด มูลค่าความผันผวนของราคาขั้นต่ำ สเปรดต่ำสุด (สกุลเงินอ้างอิง) มูลค่าของ 1 lot ขนาดการซื้อขายขั้นต่ำ/สูงสุด เปอร์เซ็นต์มาร์จิ้น ระดับ Limit และ Stop* แพลตฟอร์ม
PALL Palladium 0.1 USD 10.01 10 Troy ounces 1/45 4.5% 0 MT4/MT5
PLAT Platinum 0.1 USD 4.25 10 Troy ounces 1/100 4.5% 0 MT4/MT5

* ระดับขั้นต่ำสำหรับการส่งคำสั่งที่ค้างอยู่ตามราคาตลาดปัจจุบัน

มาร์จิ้นที่ต้องใช้สำหรับ CFD มีการคำนวณดังนี้: Lots * ขนาดของสัญญา * ราคาเปิด * เปอร์เซ็นต์มาร์จิ้น โดยไม่อิงตามเลเวอเรจในบัญชีซื้อขายของท่าน

มาร์จิ้นจะอยู่ที่ 50% เสมอ เมื่อท่านเฮดจ์ฐานะสัญญาบน CFD และหากระดับมาร์จิ้นของท่านสูงกว่า 100%

โปรดทราบว่า บริษัทจะไม่มีการต่ออายุโดยอัตโนมัติสำหรับสัญญาใหม่ของตราสารทางการเงินที่มีวันหมดอายุ

สัญญลักษณ์ รายละเอียด เวลาเซิฟเวอร์ วันจันทร์ถึงศุกร์ เปิดวันจันทร์ ปิดวันศุกร์
PALL Palladium GMT +3 01:05 - 23:55 01:05 23:10
PLAT Platinum GMT +3 01:05 - 23:55 01:05 23:10

โปรดทราบว่า บริษัทจะไม่มีการต่ออายุโดยอัตโนมัติสำหรับสัญญาใหม่ของตราสารทางการเงินที่มีวันหมดอายุ

รายละเอียด สัญลักษณ์ สัญญาที่มี วันที่เปิด* วันที่ปิดได้เท่านั้น* วันหมดอายุ* เดือนที่สัญญาครบกำหนด วันที่สัญญาสิ้นสุดอายุ**
Palladium PALL Jun 2024-02-22 2024-05-23 2024-05-24 MAR, JUN, SEP, DEC วันที่สัญญาสิ้นสุดอายุ**
Platinum PLAT Jul 2024-03-21 2024-06-21 2024-06-22 JAN, APR, JUL, OCT วันที่สัญญาสิ้นสุดอายุ**

*วันที่ปิดได้เท่านั้นและวันหมดอายุอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เมื่อใกล้ถึงวันจริง ซึ่งเป็นไปตามกฎระเบียบที่ถูกกำหนดไว้โดยผู้ให้บริการสภาพคล่องที่ดูแลการต่ออายุสัญญาฟิวเจอร์สของเราและเป็นไปตามสภาพคล่องของทั้งสัญญาที่มีการซื้อขายและสัญญาที่ใกล้จะหมดอายุ วันทำการถัดจากวันที่เปิดของตราสารตัวใหม่จะเป็นวันหมดอายุของสัญญาตัวก่อนหน้า

**วันหมดอายุจะแตกต่างกันไปในแต่ละเดือนและเป็นไปตามตารางการต่ออายุของผู้ให้บริการสภาพคล่องและสภาพคล่องของสัญญา

โปรดทราบว่า บริษัทจะไม่มีการต่ออายุโดยอัตโนมัติสำหรับสัญญาใหม่ของตราสารทางการเงินที่มีวันหมดอายุ

การเทรดทองคำคืออะไร

ทองคำและโลหะมีค่าอื่น ๆ รวมถึงน้ำมันดิบ, ทองแดง หรือปิโตรเลียม เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีส่วนสำคัญในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และถือเป็นสินค้าที่มีการซื้อขายกันด้วยสัญญา ซึ่งสัญญาของโลหะมีค่าเหล่านี้สามารถอยู่ในรูปของฟิวเจอร์ส, ราคาสปอต, สัญญาล่วงหน้า, และออปชั่น

ตัวกลางที่ทำหน้าที่เป็นพื้นที่ซื้อขายคือตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าหรือตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ นักลงทุนจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงตลาดสินค้าโภคภัณฑ์หลัก 50 แห่งที่มีการซื้อขายโลหะมีค่า เช่น ทองคำ, เงิน, แพลตตินั่ม และพาลาเดียม ซึ่งมีมูลค่าทางด้านเศรษฐกิจและความคงทนในระดับที่สูงได้ ถึงแม้ว่าเอเชียจะเป็นตลาดโลหะมีค่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก (จีน, อินเดีย และสิงคโปร์เป็นผู้บริโภคหลักของสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้) แต่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ก็ถูกครอบงำโดยบริษัทจากยุโรปและอเมริกา ซึ่งมีบริษัทโลหะมีค่าขนาดใหญ่อยู่ในประเทศแคนาดาและเยอรมัน

ที่ตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้า นอกเหนือจากการซื้อขายสกุลเงินและดัชนีหุ้นแล้ว ตลาดแห่งนี้ยังมีการซื้อขายโลหะมีค่าตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยทั่วไปโลหะมีค่าจะถูกซื้อขายกันใน 2 รูปแบบหลักๆ: สัญญาสปอตและสัญญาล่วงหน้า สัญญาสปอตจะเป็นการซื้อขายตัวสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้จริงๆ โดยมีการชำระเงินและการส่งมอบตามวันสปอต (โดยทั่วไปจะเป็น 2 วันทำการหลังจากวันที่ทำการซื้อขาย), สัญญาล่วงหน้าจะเป็นสัญญาที่ถูกทำให้เป็นมาตรฐาน โดยมีการตกลงร่วมกันระหว่างทั้งสองฝ่ายเพื่อทำการซื้อหรือขายโลหะมีค่าตามราคาที่ตกลงกัน (หรือเรียกว่าราคาฟิวเจอร์ส) โดยมีการส่งของและชำระเงินกันในอนาคต (หรือเรียกว่าวันส่งมอบ) การซื้อและขายฟิวเจอร์สจะเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีการเป็นเจ้าของตัวสินค้าโภคภัณฑ์ และมีการซื้อขายกันผ่านทางออนไลน์

อะไรคือปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ

โลหะมีค่าที่มีการซื้อขายกันมากที่สุดคือ ทองคำ, แพลตตินั่ม, พาลาเดียม และเงิน ซึ่งปริมาณการซื้อขายในระดับที่สูงของสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้เป็นคุณลักษณะที่เกิดขึ้นมาจากมูลค่าที่แท้จริงของตัวสินค้าโภคภัณฑ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจ ความนิยมในการซื้อขายผ่านทางออนไลน์หรือแม้แต่การเป็นเจ้าของตัวโลหะมีค่าเหล่านี้เพื่อการลงทุนในระยะยาวมีลักษณะที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากในทศวรรษปัจจุบัน การซื้อขายโลหะมีค่ายังถือเป็นโอกาสสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนระยะสั้น เนื่องจากอนุพันธ์และสัญญาซื้อขายจะใช้เงินทุนที่น้อยกว่าและสามารถใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของราคาได้

ราคาซื้อขายทองคำจะไม่เหมือนกับสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับระดับการผลิตและการบริโภค: ราคาทองคำจะเป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมือง จึงทำให้สามารถใช้ทองคำในการป้องกันความเสี่ยงสำหรับตลาดอื่น ๆ ในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนขึ้นได้ นอกเหนือจากทองคำแล้ว แพลตตินั่ม, พาลาเดียม และเงินยังถือเป็นสินทรัพย์มีค่าที่มีการซื้อขายกันโดยกลุ่มนักลงทุนผู้ซึ่งใช้โลหะมีค่าเหล่านี้เป็นตัวรักษาความมั่งคั่งในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอนทางด้านการเงิน

มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาและความผันผวนของตลาดโลหะมีค่า หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือ สถาบันการเงินจากทั่วโลกซึ่งมีการลงทุนแบบเก็งกำไรและสามารถทำให้ราคาวิ่งขึ้นและลงได้ ปัจจัยอีกอย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อตลาดนี้คือแนวโน้มของผู้ใช้ขั้นปลาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ซื้อเครื่องประดับ: ความต้องการในตัวเครื่องประดับได้ทำให้ราคาของโลหะมีค่าเพิ่มสูงขึ้น สภาวะเศรษฐกิจก็สามารถส่งผลต่อราคาตลาดได้เช่นกัน ในโลกที่เต็มไปด้วยเศรษฐกิจในระดับที่ดีจะมีผลโดยตรงกับความต้องการทองคำและโลหะมีค่าอื่น ๆ ที่ใช้ทำเครื่องประดับ: เมื่อนักลงทุนมองหาตัวเลือกในการลงทุนที่มีความเสี่ยงอยู่ในระดับที่สูง ราคาของโลหะมีค่าบางตัวจะต่ำลงและบางตัวจะสูงขึ้น นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับความต้องการสินทรัพย์ทางด้านการเงินนอกเหนือจากโลหะมีค่าก็ส่งผลต่อความผันผวนของราคาได้เช่นกัน

ทำไมทองคำจึงเป็นสินทรัพย์ที่มีค่า

โลหะมีค่า โดยเฉพาะทองคำ มักถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ทองคำถูกนำมาใช้ในการแลกเปลี่ยน และตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ทองคำเป็นทรัพย์สินที่มีค่าและเป็นที่ต้องการอย่างมาก ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของเหรียญ ทองแท่ง หรือทองรูปพรรณที่มีความบริสุทธิ์และน้ำหนักคงที่เหรียญทองคำเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วง 600 ปีก่อนคริสตกาล และใช้เพื่อการแลกเปลี่ยนเงินตรา (ระบบมาตรฐานทองคำ) จนกระทั่งถึงช่วงทศวรรษที่ 1930 เนื่องจากทองคำเป็นโลหะที่นำไฟฟ้าได้สูงและอ่อนตัวได้ จึงไม่ทำปฏิกิริยากับองค์ประกอบอื่นและถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่เครื่องประดับ เคมีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เชิงพาณิชย์ ไปจนถึงการแพทย์ ในฐานะเงินสินค้า (commodity money) ทองคำได้ถูกแทนที่ด้วยระบบเงินกระดาษ (Fiat Money) หลังปี ค.ศ.1976 แต่ก็ยังคงถือเป็นสินทรัพย์การลงทุนที่แข็งแกร่งมาจนถึงปัจจุบัน

นอกเหนือจากทองคำแล้ว ในช่วงเวลามากกว่า 4 พันปี โลหะเงินได้ถูกนำมาใช้เป็นเงินตราสำหรับการซื้อขายสิ่งของ (ซิลเวอร์สแตนดาร์ด) ซึ่งมีการใช้ไปจนถึงช่วงศตวรรษที่ 19 ความต้องการทางด้านอุตสาหกรรม, การค้า และการบริโภคได้ทำให้โลหะเงินเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะสำหรับการลงทุน และเริ่มมีการซื้อขายอนุพันธ์ เช่น ซิลเวอร์ฟิวเจอร์ส ในตลาดต่าง ๆ ทั่วโลก การเข้ามาของการซื้อขายผ่านทางออนไลน์ได้ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงราคาของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของโลหะเงินที่มีการซื้อขายกันได้อย่างง่ายดายและสามารถลงทุนในสินทรัพย์นี้ได้ในระยะยาว

เมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อขายทองคำและโลหะเงินซึ่งถูกใช้เป็นสินทรัพย์สำหรับการลงทุนมาตั้งแต่ยุคสมัยก่อน แพลตตินั่มและพาลาเดียมมีประวัติที่สั้นกว่าสำหรับในภาคการเงิน อย่างไรก็ตามเนื่องจากความขาดแคลนและจำนวนที่ผลิตได้จากเหมืองในแต่ละปี รวมถึงการถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมมต่าง ๆ มากมาย โลหะมีค่าทั้งสองอย่างนี้มีแนวโน้มว่าจะขายได้ราคาดีกว่าทองคำ แพลตตินั่มหายากมากกว่าทองคำ 10 เท่า และมีความเกี่ยวข้องกับความมั่งคั่งและอัลลอยด์ทองคำขาว-แพลตตินั่มได้ถูกใช้มาตั้งแต่ช่วงก่อนยุคบุกเบิก หลักฐานอ้างอิงเกี่ยวกับแพลตตินั่มในยุโรปชิ้นแรกอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 16 และตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา โลหะมีค่าชนิดนี้ได้ถูกใช้เป็นเครื่องประดับ อีกทั้งยังมีการใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์และเคมี, ทันตกรรม หรือแม้แต่ในด้านการแพทย์

คล้าย ๆ กับแพลตตินั่ม พาลาเดียมมีส่วนสำคัญในด้านเทคโนโลยีเช่นกัน ตั้งแต่ที่ได้มีการถูกค้นพบครั้งแรกที่ยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 19 ความต้องการพาลาเดียมของโลกได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากอุตสาหกรรมยานยนต์ อย่างไรก็ตามพาลาเดียมยังถูกใช้อย่างแพร่หลายในวงการการแพทย์, อุตสาหกรรมไฟฟ้า, เครื่องประดับ และใช้เป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุน เนื่องจากอุปสงค์และอุปทาน (ตัวกำหนดราคาในตลาด) ในช่วงที่เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ ราคาของแพลตตินั่มและพาลาเดียมสามารถเทียบเท่าหรือมากกว่าทองคำได้ ในขณะที่ช่วงเศรษฐกิจไม่มีเสถียรภาพราคาของโลหะมีค่าทั้งสองก็จะลดลงน้อยกว่าทองคำ จึงทำให้ทองคำเป็นโลหะที่มีเสถียรภาพมากกว่าสำหรับการลงทุน

วิธีเทรดทองคำออนไลน์

โลหะมีค่าได้กลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในการซื้อขายกันมากที่สุดมาตั้งแต่ช่วงยุค 1970s นอกจากการซื้อขายสกุลเงิน (ฟอเร็กซ์) แล้ว การลงทุนในทองคำและโลหะมีค่าตัวอื่นๆ ในระยะยาวถือเป็นวิธีการบริหารความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลกในช่วงที่เกิดเงินเฟ้อหรือความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจ/การเมือง

สำหรับสัญญาล่วงหน้าหรือที่เรียกว่าสัญญาอนุพันธ์ มูลค่าของตัวสัญญาจะมาจากพฤติกรรมของตัวสินทรัพย์ หนึ่งในเหตุผลหลักของการลงทุนในฟิวเจอร์สโลหะมีค่าคือ ความสามารถในการลดความเสี่ยง: ให้ผู้ซื้อและผู้ขายสัญญาได้รับราคาหรืออัตราที่แน่นอนล่วงหน้าสำหรับการทำธุรกรรมในอนาคต ซึ่งสามารถช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างกระทันหันที่อาจทำให้มีการขาดทุนเพิ่มขึ้นได้

โลหะมีค่าสามารถถูกซื้อขายได้สองทิศทาง: ถ้าหากมีการคาดการณ์ว่าตลาดจะปรับตัวขึ้น (แนวโน้มกระทิง) นักลงทุนสามารถเปิดโพซิชั่นซื้อสัญญาล่วงหน้า (long) และปิดโพซิชั่นด้วยการขายสัญญา; แต่ถ้าหากมีการคาดการณ์ว่าตลาดจะปรับตัวลง (แนวโน้มหมี) นักลงทุนสามารถเปิดโพซิชั่นขายสัญญาล่วงหน้า (short) และปิดโพซิชั่นด้วยการซื้อสัญญา นอกจากนี้นักลงทุนยังสามารถทำการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าด้วยการเปิดและปิดโพซิชั่นได้หลายครั้ง ซึ่งอาจเป็นการเปิดโพซิชั่นสัญญาที่ราคาต่างกันแต่ทำการปิดที่ราคาเดียวหรือจะทำในทางกลับกันก็ได้ ความสามารถในการซื้อขายได้ทั้งสองทางช่วยให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ไม่ว่าตลาดจะปรับตัวขึ้นหรือลงก็ตาม

เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านสามารถใช้งานเว็บไซต์ของเราได้เต็มประสิทธิภาพ อ่านเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าคุกกี้ของท่าน

คำเตือนความเสี่ยง: เงินทุนของท่านมีความเสี่ยง ผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราทดอาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนบางราย โปรดศึกษาและทำความเข้าใจเอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงของเรา